เป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้สูงอายุทุกท่าน มักจะมีสภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ทั้งนี้ก็เพราะอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายทำหน้าที่แบบไม่ได้หยุดพักมาเป็นเวลานาน และในวัยผู้สูงอายุนั้นการสร้างเซลล์ใหม่ในร่างกายจะลดลงแต่จะเน้นการซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย ทำให้ระบบอวัยวะของร่างกายผู้สูงอายุทั้ง 9 ระบบก็มีการเปลี่ยนแปลงไป มีความเชื่องช้า และประสิทธิภาพในการทำงานลดลงจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพตามมา

ระบบอวัยวะที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้สูงอายุ ทั้ง 9 ระบบมีดังนี้

1.ระบบผิวหนัง

ผู้สูงอายุจะมีผิวหนังที่มีความยืดหยุ่นลดลง ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น และเป็นรอย เพราะปริมาณไขมันที่สะสมอยู่ตามผิวหนังนั้นน้อยลง การแบ่งตัวของเซลล์ก็ช้าลงจนทำให้แผลที่เกิดขึ้นหายช้า นอกจากนี้ต่อมเหงื่อและต่อมไขมันยังทำงานน้อยจนทำให้ผู้สูงอายุผิวแห้ง และมีอาการคันที่ผิวหนังบ่อย ๆ และจะคันเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาวที่มีอากาศแห้ง และมีความทนต่อสภาพอากาศร้อนหนาวได้น้อยลง

2. ระบบทางเดินอาหาร

ระบบทางเดินอาหารประกอบด้วยอวัยวะหลัก ๆ คือ ปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้ ซึ่งผู้สูงอายุจะมีประสิทธิการทำงานของอวัยวะเหล่านี้ลดลง ทำให้ผู้สูงอายุสามารถทานอาหารได้น้อยลง ได้แก่ ลิ้น การรับรสของลิ้น การรับรสเสื่อมลง ฟัน ฟันผุแตกหักง่าย เคลือบฟันบางลง เหงือกหุ้มคอฟันร่น เหงือกเป็นแผลนอกจากนั้นประสิทธิภาพในการย่อยอาหารช้าลง เพราะกรดในกระเพาะอาหารน้อยลงและการดูดซึมอาหารของกระเพาะและลำไส้ก็ลดลง ตับและตับอ่อนเสื่อม ทำให้การนำสารอาหารไปใช้ประโยชน์ของร่างกายไม่ค่อยเหมาะสม ท้องอืดเฟ้อได้ง่าย ลำไส้ใหญ่ก็เคลื่อนไหวลดลงทำให้ท้องผูกง่าย

3. ระบบการหายใจ

ในระบบนี้อวัยวะหลักคือ ทรวงอก หลอดลม และปอด ในส่วนของหลอดลมของผู้สูงอายุจะไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงไปจากวัยหนุ่มสาวมากนัก แต่อีก 2 อวัยวะที่เหลือมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก โดยทรวงอกจะมีกระดูกสันหลังเป็นแกน เมื่ออายุมากขึ้นกระดูกก็บางลงทำให้กระดูกสันหลังคดงอ และพื้นที่ในการยืดขยายของทรวงอกลดลง ทำให้เวลาหายใจเข้าก็ไม่สามารถหายใจเข้าอย่างเต็มที่ได้ หรือที่เราเรียกกันว่า “หายใจได้ไม่เต็มปอด” ในส่วนของปอดก็จะสูญสียความยืดหยุ่น บวกกับการที่พื้นที่ในการขยายตัวของทรวงอกลดลง ก็เลยทำให้มีการแลกเปลี่ยนแก็สน้อยลงไปด้วย ออกซิเจนที่ร่างกายได้รับก็จะน้อยลงด้วยเช่นกัน ผู้สูงอายุจึงไม่สามารถออกกำลังกายหนัก ๆได้เพราะการออกกำลังกายต้องใช้ออกซิเจนจำนวนมาก ทำให้รู้สึกเหนื่อยง่าย

4. ระบบหมุนเวียนเลือด

ระบบนี้อวัยวะหลักเลยคือ หัวใจ และหลอดเลือด ในผู้สูงอายุนั้นเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจจะลดลง หัวใจที่ทำงานมาตลอดชีวิตเองก็เริ่มอ่อนล้ามากขึ้น โดยเฉพาะลิ้นหัวใจที่ทำงานหนักมากอาจมีไขมัน หรือหินปูนสะสม จนมีปัญหาต่อการเปิดปิดลิ้นหัวใจตามมา ในส่วนของหลอดเลือดเองก็มีโอกาสที่จะมีไขมัน หรือหินปูนมาเกาะจนทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆของร่างกายไม่สะดวก ถ้าเป็นหลอดเลือดหัวใจก็อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจขาดเลือดได้

5. ระบบขับถ่ายของเสีย

ระบบนี้เป็นระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในผู้สูงอายุ เพราะน้ำหนักไตที่ลดลง 20-30 % ทำให้ไตที่สามารถกรองของเสียได้น้อยลง กระเพาะปัสสาวะเองก็มีความจุลดลง ทำให้ผู้สูงอายุต้องปัสสาวะบ่อยมากขึ้น ในส่วนของผู้สูงอายุเพศชาย ต่อมลูกหมากจะหนาขึ้นจนอุดตันทางเดินปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะบ่อยกว่าผู้สูงอายุเพศหญิง และอาจมีอาการไส้เลื่อน และริดสีดวงทวารตามมา

6. ระบบต่อมไร้ท่อ และฮอร์โมน

เมื่อมีอายุมากขึ้นจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำงานได้น้อยลงก็จะมีลักษณะอาการที่ไม่จำเพาะเจาะจงและบางครั้งทำให้คิดว่าเกิดจาก ความชราเอง เช่น เคลื่อนไหวเชื่องช้าลง , น้ำหนักขึ้น , สติปัญญาลดต่ำลง , ท้องผูกเซลล์ในร่างกายตอบสนองต่อฮอร์โมนอินซูลินน้อยลง ทำให้อินซูลินไม่สามารถออกฤทธิ์ได้เต็มที่ จึงพบปัญหาโรคเบาหวานเพิ่มสูงขึ้นตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีภาวะอ้วนต่อมหมวกไต ในส่วนที่เกี่ยวกับการหลั่งฮอร์โมน Aldosterone ซึ่งทำหน้าที่ดูดซึมเกลือโซเดียมลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น เมื่อผู้สูงอายุสูญเสียเกลือแร่ออกจากร่างกาย เช่น ขณะที่มีอาการท้องร่วง จึงมักทำให้ความดันโลหิตลดต่ำลงมากกว่าคนทั่วไป

7. ระบบประสาท และการรับสัมผัส

น้ำหนักสมองของผู้สูงอายุจะลดลง 10 % ทำให้การทำงานของระบบประสาทของผู้สูงอายุจะเริ่มเสื่อมสภาพลง ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวและการนึกคิดเริ่มช้าลง อวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวเริ่มทำงานไม่สัมพันธ์กัน การเรียนรู้ การวิเคราะห์ และการคำนวณด้านต่างๆ ลดลง ระดับฮอร์โมนที่ลดลง เวลานอนที่เปลี่ยนไป มีภาวะความจำเสื่อมและภาวะซึมเศร้ามากขึ้น

8. ระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย

ระบบนี้เรียกได้ว่าเป็นระบบที่เปลี่ยนแปลงไปมากที่สุดเมื่อเข้าสู่วัยชรา เพราะการเปลี่ยนแปลงของระบบภูมิคุ้มกันจะทำให้ผู้สูงอายุมีโอกาสเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อ หรือสิ่งแปลกปลอมจากภายนอกได้มากขึ้น เนื่องจากเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันของผู้สูงอายุจะมีประสิทธิภาพในการทำงานลดลง

9. ระบบกระดูก และกล้ามเนื้อ

เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ มวลกล้ามเนื้อจะลดลง และมวลกระดูกที่ลดลงทำให้กระดูกเปราะบางลง จนอาจเกิดภาวะกระดูกพรุน ผู้สูงอายุมักจะเคลื่อนไหวได้ช้า และออกแรงมากไม่ได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุเพศหญิงที่กระดูกเปราะ และหักได้ง่ายกว่าผู้สูงอายุเพศชายเสียอีก ดังนั้นก็ต้องใช้ความระมัดระวังในการดำเนินชีวิตมากขึ้นด้วย

เป็นยังไงกันบ้างสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงระบบต่าง ๆ เมื่อร่างกายเข้าสู่ภาวะสูงวัย การเปลี่ยนแปลงของระบบเหล่านี้มีทั้งแบบที่ไม่กระทบในชีวิตประจำวัน และแบบที่จะเปลี่ยนชีวิตประจำวันของเราไปตลอดกาล แต่ทั้งนี้มันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับทุกคนตามธรรมชาติ ดังนั้นการยอมรับ และหันมาศึกษาการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เพื่อให้รู้เท่าทันเมื่อเกิดสิ่งผิดปกติขึ้นกับร่างกาย จึงเป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญ.การเปลี่ยนแปลงการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่เราสามารถยืดอายุการเสื่อมสภาพลงได้ด้วยการดูแลสุขภาพ ทานอาหารที่มีประโยชน์ รับสารอาหารให้เพียงพอในแต่ละวัน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญหลีกเลี่ยงสิ่งที่ปั่นทอนสุขภาพกายและสุขภาพจิตนะครับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
– ศ.นพ.ประเสริฐ อัสสันตชัย, การเปลี่ยนแปลงในผู้สูงอายุ เวชศาสตร์ผู้สูงอายุ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
– สำนักงานกองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ และมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุ, คู่มือเตรียมความพร้อมสู่สังคมสูงวัยสุขภาพดี

บทความอื่นๆ

ปัญหาท้องอืด เอลเดอร์เชื่อว่าหลายๆคนประสบปัญหาเหล่านี้อยู่เป็นประจำ ดังนั้นสูงวัยมาทำความเข้าใจถึงต้นเหตุของปัญหาท้องอืด และมาร่วมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารกันครับ
ภาวะเลือดเป็นกรดในผู้สูงอายุ เอลเดอร์เชื่อว่าหลายท่านคงยังไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่ แต่โรคนี้เป็นโรคอันตรายใกล้ตัวอย่างมากที่ผู้สูงอายุไม่ควรละเลย
error: Content is protected !!
Scroll to Top