เมนูหลากหลายที่เราได้ลิ้มรสความอร่อยจากถั่วเขียวเมล็ดจิ๋ว แถมยังทำเมนูขนมได้หลากหลายและอร่อยด้วย สำหรับผู้สูงอายุเมนูขนมจากถั่วเขียว ที่รับรองว่าถูกปาก กินง่ายและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากๆ เมนูที่เอลเดอร์จะพาไปทำความรู้จักนั่นก็คือ “ถั่วเขียวต้มน้ำตาล” หลายๆ คนเคยลิ้มรสความอร่อย หอม มัน ของเมนูนี้แล้ว แต่เชื่อใหมว่าเมนูง่ายๆ เมนูนี้มีทำให้ต้องร้องว้าวววว กันเลยทีเดียว พร้อมแล้วก็ตามเอลเดอร์มาค้นหาความลับ ความมหัศจรรย์ของถั่วเมล็ดจิ๋วนี้กันเลยครับ  

ประโยชน์ของถั่วเขียว

ถั่วเขียวจัดเป็นธัญพืชตัวหนึ่งที่มีคุณค่าทางโภชนาการไม่น้อยหน้าถั่วเมล็ดโตๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เส้นใยอาหาร วิตามินเอ ซี อี เค รวมถึงวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่มีในปริมาณสูงโดยเฉพาะธาตุเหล็ก รวมถึงเบต้าแคโรทีน และสารโพลีฟีนอล ซึ่งเป็นกลุ่มของสารพฤกษเคมีที่พบในพืชผักผลไม้มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่ช่วยสร้างความสมดุลและชะลอความเสื่อมของร่างกาย 

ในประเทศจีนถือว่าถั่วเขียวเป็นสมุนไพรตัวหนึ่งที่มีฤทธิ์เย็น ช่วยรักษาและป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ของผู้สูงอายุได้ดีทีเดียว ได้แก่ 

1. ช่วยลดคอเลสเตอรอล ถั่วเขียวมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่กระตุ้นให้ตับและลำไส้สร้าง HDL-cholesterol ในปริมาณสูงเพื่อนำไขมันเลว LDL-cholesterol จากผนังหลอดเลือดไปทำลายที่ตับ ช่วยป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือดซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจและโรคสมองตีบ
2. ป้องกันโรคเบาหวาน ถั่วเขียวมีปริมาณน้ำตาลที่ต่ำซึ่งไม่ส่งผลต่อผู้ป่วยโรคเบาหวานและในเปลือกถั่วเขียวยังมีสารไซลิทอลที่ช่วยรักษาสมดุลของภาวะน้ำตาลในเลือดสูงได้ เนื่องจากไซลิทอลจะถูกดูดซึมได้ช้ากว่าน้ำตาลชนิดอื่นและค่อยๆ ปล่อยพลังงานให้กับร่างกาย 
3. ช่วยให้ขับถ่ายง่าย เนื่องจากถั่วเขียวมีเส้นใยอาหารสูง มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ จึงช่วยให้อุจจาระอ่อนนุ่ม ขับถ่ายง่าย 
4. ป้องกันโรคมะเร็ง ในถั่วเขียวมีสารโพลีฟีนอลและโอลิโกแซ็กคาไรด์ เป็นสารที่ช่วยยับยั้งและป้องกันการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง

5. ป้องกันโรคโลหิตจาง ถั่วเขียวมีธาตุเหล็กในปริมาณสูง การกินถั่วเขียวเป็นประจำจะเป็นการช่วยเพิ่มธาตุเหล็กให้กับร่างกาย ทำให้ร่างกายได้รับธาตุเหล็กในปริมาณที่เพียงพอ ที่ช่วยป้องกันการเกิดภาวะโรคโลหิตจางได้ 

วิธีทำถั่วเขียวต้มน้ำตาลสูตรหวานน้อย

การทำถั่วเขียวต้มน้ำตาลหลายคนอาจจะคิดว่าทำยาก ใช้เวลานาน น้องเอลเดอร์มีวิธีที่จะทำให้ถ้่วเขียวต้มน้ำตาลอ่อนนุ่มเร็วที่สุดแถมยังมีประโยชน์ครบถ้วนอีกด้วย ไปเริ่มทำพร้อมๆ กันเลยครับ เริ่มจาก

1. เตรียมถั่วเขียว 500 กรัม คัดสิ่งเจือปน หิน ดิน ทราย เมล็ดที่เสียออก จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดประมาณ 5-6 รอบ จนน้ำใส 
2. ใส่น้ำพอท่วมถั่วเขียวเล็กน้อยใช้ไฟกลางจนกระทั่งน้ำเดือด แล้วต้มต่อไปอีก 5 นาที 
3. คนถั่วเขียวให้ทั่วหม้อ และเติมน้ำเพิ่มตามต้องการ ต้มต่อไปอีก 10-15 นาที จนถั่วเขียวนุ่ม แตกเม็ด จะเห็นว่าน้ำต้มจะมีลักษณะขุ่น
4. เติมน้ำตาลหญ้าหวาน 20 กรัม และเกลือป่นเล็กน้อยแค่หยิบมือเพื่อตัดรสให้อร่อย

โภชนาการของถั่วเขียวต้มน้ำตาล

เรามาดูกันว่าถั่วเขียวต้มน้ำตาล 1 ถ้วย (100 กรัม) มีคุณค่าทางโภชนาการโดยประมาณเท่าไหร่

ถั่วเขียวต้มน้ำตาลสำหรับ 1 ถ้วยต่อ 1 มื้อ จะให้พลังงาน 213.00 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 46.20 กรัม
เส้นใย 7.60 กรัม
ไขมัน  0.40 กรัม
โปรตีน 7.00 กรัม
โซเดียม 8 มิลลิกรัม
น้ำตาล 29 กรัม
ทั้งนี้ยังมีวิตามินและแร่ธาตุอีกหลายตัว ได้แก่ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินบี 9 วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค ธาตุแคลเซียม โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก ธาตุแมกนีเซียม ธาตุแมงกานีส ธาตุฟอสฟอรัส และธาตุสังกะสี 

ไม่ยากเลยใช่ใหมครับสำหรับเมนู “ถั่วเขียวต้มน้ำตาล” ที่เป็นแหล่งของโปรตีน เส้นใยอาหาร ไขมัน วิตามินและแร่ธาตุ ที่กินได้ทั้งครอบครัวโดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ไม่ต้องกังวลว่าจะเคี้ยวไม่ได้ หรือกลืนลำบากรับรองสูตรนี้อร่อย กินง่าย ดีต่อสุขภาพ โภชนาการครบแถมยังช่วยป้องกันโรควัยชราได้เป็นอย่างดี เมนูอาหารเพื่อสุขภาพวัยชราเมนูต่อไปจะอะไร อร่อยแค่ไหนติดตามน้องเอลเดอร์ในบทความต่อไปนะครับ  

อ้างอิง

บทความอื่นๆ

ปัญหาท้องอืด เอลเดอร์เชื่อว่าหลายๆคนประสบปัญหาเหล่านี้อยู่เป็นประจำ ดังนั้นสูงวัยมาทำความเข้าใจถึงต้นเหตุของปัญหาท้องอืด และมาร่วมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารกันครับ
ภาวะเลือดเป็นกรดในผู้สูงอายุ เอลเดอร์เชื่อว่าหลายท่านคงยังไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่ แต่โรคนี้เป็นโรคอันตรายใกล้ตัวอย่างมากที่ผู้สูงอายุไม่ควรละเลย
error: Content is protected !!
Scroll to Top