“แคลเซียม” หนึ่งในแร่ธาตุที่มีปริมาณมากที่สุดในร่างกาย 99% ของแคลเซียมมีหน้าที่สร้าง ซ่อมแซมและเพิ่มความหนาแน่นในกระดูกและฟัน และอีก 1% ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น การหดตัวของกล้ามเนื้อ การเต้นของหัวใจ การแข็งตัวของเลือดเมื่อมีบาดแผล การทำงานของระบบประสาท

หากร่างกายไม่ได้รับแคลเซียมที่เพียงพอ ร่างกายจะดึงเอาแคลเซียมจากกระดูกมาใช้งาน ทำให้ความหนาแน่นของกระดูกลดลง เดิกภาวะกระดูกพรุนและกระดูกเปราะบาง เสี่ยงต่อการแตกหักง่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เป็นภาวะพร่องแคลเซียมอย่างรุนแรง  และอาจเกิดอาการชาปลายนิ้ว  หัวใจเต้นผิดจังหวะ  หรือชัก 

ใครที่ควรบริโภคแคลเซียมเพื่อเสริมสุขภาพและควรบริโภคในปริมาณเท่าใดบ้าง

1. ผู้หญิงที่หมดประจำเดือน ต้องการแคลเซียม 1,200 มิลลิกรัม/วัน เพราะ  10 ปีแรกหลังประจำเดือนหมด กระดูกจะบางลงเร็วมาก เกิดจากการขาดฮอร์โมนเพศหญิง การเสริมแคลเซียมจะช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกและป้องกันโรคกระดูกพรุน 
2. วัยสูงอายุชายต้องการแคลเซียม 1,000 มิลลิกรัม/วัน
3. ผู้ตั้งครรภ์ ต้องการแคลเซียม 1,500 มิลลิกรัม/วัน

เลือกแคลเซียมให้เหมาะกับร่างกาย

โดยปกติร่างกายจะไม่สามารถสร้างแคลเซียมขึ้นมาเองได้ การทานแคลเซียมจึงเป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายจึงสามารถทำได้ 2 วิธีดังนี้
1. รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงต่างๆ เช่น ผลิตภัณฑ์นม อาหารทะเล กุ้งแห้ง ผักใบเขียว ธัญพืชต่างๆ เช่น งาดำ แต่การบริโภคแคลเซียมให้ได้ปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวันนั้นสูงมาก จำเป็นต้องดื่มนมถึง 6 แก้ว จึงจะได้ปริมาณแคลเซียม 1,000 มิลลิกรัมที่ร่างกายต้องการ

2. การบริโภคอาหารเสริม จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเสริมสร้างแคลเซียมให้แก่ร่างกาย ด้วยวิธีที่สะดวก ง่ายกว่า  สามารถแบ่งออกได้หลายชนิด  ซึ่งจะให้ปริมาณแคลเซียมและการดูดซึมที่แตกต่าง
แคลเซียมคาร์บอเนต Calcium Carbonate ให้ปริมาณแคลเซียม 40% และร่างกายสามารถดูดซึมได้ 10% ควรรับประทานพร้อมอาหารเท่านั้น เนื่องจากแคลเซียมจะดูดซึม เมื่อมีกรดในกระเพาะอาหาร
แคลเซียมซิเตรต Calcium Citrate ให้ปริมาณแคลเซียม 21% และร่างกายสามารถดูดซึมได้ 50% ต้องกินพร้อมอาหาร (ทำงานได้ต่อเมื่อมีกรดในกระเพาะเท่านั้น)  
แคลเซียมแล็กเตต calcium L-threonate ให้ปริมาณแคลเซียม 13%และร่างกายสามารถดูดซึมได้ 90% สามารถทานขณะท้องว่างได้ ไม่ก่อให้เกิด กินตอนท้องว่างได้ 

และวันนี้เอลเดอร์มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกมาฝากทุกท่าน แคล มัลติพลัส Cal Multiplus

– แคลเซียมชนิดเม็ดมีส่วนผสมของ แคลเซียมคาร์บอเนต 1,250 มิลลิกรัม
– มีวิตามินหลากชนิด โดยเฉพาะวิตามินดีวิตามินดี 3 ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่กระดูกและรักษาภาวะสมดุลของระดับแคลเซียมในเลือด
– มีคอลลาเจนจากปลาทะเล ชนิดที่ 2 ที่ช่วยลดการอักเสบ และเสื่อมของข้อเข่า ช่วยบำรุงกระดูก ข้อ
– ซิงค์ แมกนีเซียม ช่วยบำรุงผม และเล็บ ป้องการเกิด ล้า ตะคริว หรือเกิดการหดเกร็งที่ผิดปกติของกล้ามเนื้อ
ขนาดรับประทาน :  รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง พร้อมมื้ออาหาร

สามารถเข้าไปดูสินค้าได้ที่ : เเคลเซียม​บำรุงกระดูกและข้อ​ Cal Multiplus – Elderly Society | สังคมผู้สูงอายุ

ทานแคลเซียมให้เห็นผลลัพธ์

1. ทานแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสม เพราะหากททานมากเกินความจำเป็น ทำให้เกิดการสะสมของหินปูนในเต้านม ไต หลอดเลือด
2. การทานแคลเซียมที่ดีต้องเสริมวิตามินดีควบคู่ เพราะวิตามินดีจะช่วยให้ลำไส้ดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น 
3. ควรรับประทานแคลเซียมพร้อมมื้ออาหารเย็น เพราะแคลเซียมจะไหลออกจากกระดูกในเวลากลางคืน หากมีปริมาณแคลเซียมที่สูงขึ้นจะช่วยป้องกันการไหลออกของแคลเซียมจากกระดูกได้ดี
4. ระมัดระวังการทานแคลเซียมควบคู่กับยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาลดความดัน
5. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวางแผนการรับประทานแคลเซียมได้อย่างเหมาะสม

เรื่องของแคลเซียม ภัยเงียบที่หลายๆคนมักมองข้าม เพราะกระดูกที่เปราะบางจะไม่มีการแสดงอาการ หรือสัญญาณบอกล่วงหน้า และสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอจะเป็นสิ่งที่สามารถบ่งบอกได้ว่าร่างกายต้องการแคลเซียมหรือไม่

อกสารอ้างอิง
แคลเซียมกับโรคกระดูกพรุน
– ความสำคัญของแคลเซียมต่อร่างกาย
รู้จักแคลเซียมให้ดีกว่าเดิม
รับประทานแคลเซียมอย่างไรให้ได้ผล
อาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม

บทความอื่นๆ

ปัญหาท้องอืด เอลเดอร์เชื่อว่าหลายๆคนประสบปัญหาเหล่านี้อยู่เป็นประจำ ดังนั้นสูงวัยมาทำความเข้าใจถึงต้นเหตุของปัญหาท้องอืด และมาร่วมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารกันครับ
ภาวะเลือดเป็นกรดในผู้สูงอายุ เอลเดอร์เชื่อว่าหลายท่านคงยังไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่ แต่โรคนี้เป็นโรคอันตรายใกล้ตัวอย่างมากที่ผู้สูงอายุไม่ควรละเลย
error: Content is protected !!
Scroll to Top