เมื่อพูดถึงโรคความดันโลหิตสูง เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จัก ซึ่งโรคนี้มักพบในคนอายุ 40 ปีขึ้นไป จึงอาจกล่าวได้ว่ายิ่งอายุมากขึ้น หรือในผู้สูงอายุจะยิ่งมีความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงมากขึ้นนั่นเอง โดยโรคนี้นับเป็นภัยเงียบที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ กว่าจะรู้ตัวก็อาจมีอาการแทรกซ้อนรุนแรงขึ้นแล้ว
การดูแลตัวเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยเฉพาะเรื่องอาหารและโภชนาการ ถือว่ามีความสำคัญมาก ในการที่จะดูแลรักษาและหลีกเลี่ยงให้ห่างไกลจากโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และมีส่วนช่วยลดความดันโลหิตสูงได้มีหลายชนิดด้วยกัน แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าผลไม้ชนิดนี้ก็มีส่วนช่วยลดความดันโลหิตได้ นั่นก็คือ “มะพร้าว” นั่นเอง
“มะพร้าว” ผลไม้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย และยังมีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพ สามารถรับประทานได้ทั้งน้ำและเนื้อ จะรับประทานแบบสดหรือนำมาแปรรูปประกอบอาหารก็ได้ เช่น เนื้อมะพร้าวสามารถนำมาทำเป็นน้ำมันมะพร้าว แป้งมะพร้าว หรือคั้นเป็นน้ำกะทิซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของอาหารไทยก็ได้ ส่วน “น้ำมะพร้าว” เป็นเครื่องดื่มที่ได้ชื่อว่าเป็นเกลือแร่จากธรรมชาติ ดื่มแล้วทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และร่างกายยังสามารถดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้ทันที ซึ่งคนส่วนใหญ่จะนิยมดื่มน้ำมะพร้าวสดๆ แบบไม่ผ่านการแปรรูป โดยทั้งน้ำและเนื้อมะพร้าว อุดมไปด้วยสารอาหารและคุณค่าทางโภชนาการมากมาย ดังนี้
คุณค่าทางโภชนาการ | น้ำมะพร้าว (100กรัม) | เนื้อมะพร้าว (100 กรัม) |
พลังงาน | 79 กิโลแคลอรี | 1,480 กิโลแคลอรี |
คาร์โบไฮเดรต | 3.71 กรัม | 24.23 กรัม |
น้ำตาล | 2.61 กรัม | 6.23 กรัม |
เส้นใย | 1.1 กรัม | 9 กรัม |
ไขมัน | 0.2 กรัม | 33.49 กรัม |
โปรตีน | 0.72 กรัม | 3.33 กรัม |
วิตามินบี 1 | 0.03 มิลลิกรัม | 0.66 มิลลิกรัม |
วิตามินบี 2 | 0.057 มิลลิกรัม | 0.02 มิลลิกรัม |
วิตามินบี 3 | 0.08 มิลลิกรัม | 0.54 มิลลิกรัม |
วิตามินบี 6 | 0.032 มิลลิกรัม | 0.05 มิลลิกรัม |
วิตามินซี | 2.4 มิลลิกรัม | 3.3 มิลลิกรัม |
แคลเซียม | 24 มิลลิกรัม | 14 มิลลิกรัม |
ธาตุเหล็ก | 0.29 มิลลิกรัม | 2.43 มิลลิกรัม |
แมกนีเซียม | 25 มิลลิกรัม | 32 มิลลิกรัม |
โพแทสเซียม | 250 มิลลิกรัม | 356 มิลลิกรัม |
ฟอสฟอรัส | 113 มิลลิกรัม | 113 มิลลิกรัม |
สังกะสี | 0.1 มิลลิกรัม | 1.1 มิลลิกรัม |
ประโยชน์ของ “น้ำมะพร้าว”
คนสมัยโบราณเชื่อว่า การดื่มน้ำมะพร้าวเป็นเคล็ดลับของการมีสุขภาพดีและมีอายุยืนยาว นั่นก็เพราะว่าน้ำมะพร้าวอุดมไปด้วยสารอาหาร ทั้งวิตามินและเกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกาย ทำให้น้ำมะพร้าวมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ ดังนี้
1. น้ำมะพร้าวมีความเป็นด่าง จึงช่วยปรับสมดุลในร่างกาย ทำให้กลไกและระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานเป็นปกติ
2. น้ำมะพร้าวมีทั้งโพแทสเซียมที่ช่วยฟื้นฟูร่างกาย และน้ำตาลกลูโคสที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ทันที จึงถือเป็นเครื่องดื่มเกลือแร่ที่ดีที่เหมาะสำหรับนักกีฬา
3. โพแทสเซียมในน้ำมะพร้าวช่วยในเรื่องควบคุมสมดุลของน้ำในร่างกาย และช่วยให้หัวใจเต้นเป็นปกติ ช่วยลดความดันโลหิตสูง ช่วยในการลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง ทำให้เรารู้สึกสดชื่นแจ่มใส กระปรี้กระเปร่า
4. คนเป็นไข้ตัวร้อน หรือไข้ติดเชื้อ การดื่มน้ำมะพร้าวช่วยลดไข้ได้ เพราะมีฤทธิ์เย็น และยังมีกรดลอริกที่เป็นยาฆ่าเชื้อ ดื่มแล้ว ช่วยบรรเทาอาการติดเชื้อได้
5. ในน้ำมะพร้าวมีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง จึงมีส่วนช่วยชะลออาการของโรคอัลไซเมอร์ และโรคความจำเสื่อมในสตรีวัยทองได้
6. ฮอร์โมนเอสโตรเจนในน้ำมะพร้าว มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน โดยคอลลาเจนจะช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ส่วนอีลาสตินเป็นโครงสร้างสำคัญที่ยึดให้เซลล์ผิวเรียงตัวอย่างเหมาะสม จึงช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น กระชับ ชะลอการเกิดริ้วรอย
7. น้ำมะพร้าวช่วยชดเชยเกลือแร่ให้สำหรับคนที่มีอาการท้องเสีย เนื่องจากเวลาท้องเสียร่างกายจะต้องเสียเกลือแร่ไปด้วย จนบางคนถึงกับช็อกได้
8. ในน้ำมะพร้าวมีสารอาหารที่ช่วยบำรุงสมองอยู่หลายชนิด ดังนั้นคนที่ดื่มน้ำมะพร้าวเป็นประจำจะช่วยให้ความจำดี โดยเฉพาะในวัยเรียน
9. คนที่มีอาการความดันต่ำหรือหน้ามืดบ่อยๆ เพราะเลือดน้อย โพแทสเซียมในน้ำมะพร้าวช่วยบำรุง และเพิ่มการสร้างเม็ดเลือด ช่วยให้ความดันกลับมาเป็นปกติ
นอกจากที่กล่าวไปแล้ว น้ำมะพร้าวยังมีประโยชน์อีกนานัปการ แต่ประโยชน์ที่เราจะพูดถึงในวันนี้ก็คือ “น้ำมะพร้าวช่วยลดความดันโลหิตสูงได้”
น้ำมะพร้าว ช่วยลดความดันโลหิตสูงได้อย่างไร?
เนื่องจากภาวะความดันโลหิตสูง สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ความดันโลหิตสูง คือ ร่างกายมีระดับโพแทสเซียมต่ำ จนทำให้ไม่สามารถควบคุมปริมาณโซเดียมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดอาการบวมน้ำและความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นตามมา ทั้งนี้มีการศึกษาระบุว่าโพแทสเซียมมีส่วนช่วยลดความดันโลหิตได้ ดังนั้น จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า การบริโภคน้ำมะพร้าวซึ่งอุดมไปด้วยโพแทสเซียมจึงน่าจะเป็นผลดีกับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง
ด้วยเหตุนี้จึงมีงานวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของน้ำมะพร้าวในการลดความดันโลหิตสูง โดยให้ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงทดลองดื่มน้ำมะพร้าว เปรียบเทียบกับการดื่มเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ ได้แก่ น้ำเปล่า เครื่องดื่มจากเปลือกไม้ หรือน้ำมะพร้าวผสมกับเครื่องดื่มจากเปลือกไม้ แล้วดูการเปลี่ยนแปลงค่าความดันโลหิตหลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์ พบว่าผู้ป่วยกลุ่มที่ดื่มน้ำมะพร้าวมีค่าความดันโลหิตตัวบน (Systolic Pressure) ลดลงมากที่สุด ส่วนกลุ่มอื่นๆมีค่าดังกล่าวลดลงในระดับใกล้เคียงกัน ส่วนค่าความดันโลหิตตัวล่าง (Diastolic Pressure) พบว่าทั้งกลุ่มที่ดื่มเครื่องดื่มจากเปลือกไม้ผสมกับน้ำมะพร้าว หรือกลุ่มที่ดื่มน้ำมะพร้าวเพียงอย่างเดียวล้วนมีค่าความดันตัวล่างลดลงด้วยเช่นกัน ดังนั้น นักวิจัยจึงคาดว่าการดื่มน้ำมะพร้าวอาจเป็นประโยชน์ต่อการรักษาโรคความดันโลหิตสูงได้ แต่การทดลองนี้เป็นเพียงงานวิจัยขนาดเล็กเท่านั้น จึงควรมีการศึกษาวิจัยและค้นคว้าเพิ่มเติมเพื่อยืนยันคุณสมบัติข้อนี้ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากหลายแหล่งระบุตรงกันว่า มีผลการศึกษาพบว่าน้ำมะพร้าวช่วยลดความดันโลหิตสูงได้ถึง 71% ซึ่งการดื่มน้ำมะพร้าว จะเป็นตัวเข้าไปช่วยลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดความดันโลหิตสูง เช่น การทำให้โพแทสเซียมในร่างกายอยู่ในระดับที่สมดุล พร้อมปรับให้ความดันโลหิตอยู่ในระดับที่เหมาะสม จึงทำให้เกิดผลดีต่อผู้ที่มีปัญหาเรื่องความดันโลหิตสูง
แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการระบุแน่ชัดถึงขนาดและปริมาณน้ำมะพร้าวที่ควรดื่มต่อวัน ดังนั้นควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากจนเกินไป เช่น วันละ 1 แก้ว (240 มิลลิลิตร) ซึ่งจะมีโพแทสเซียมประมาณ 600 มิลลิกรัม
ข้อควรระวังและโรคที่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำมะพร้าว
ถึงแม้น้ำมะพร้าวจะมีคุณค่าทางโภชนาการและมีสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากเพียงใด แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนสามารถดื่มน้ำมะพร้าวได้ อีกทั้งยังมีข้อควรระวังในการดื่มน้ำมะพร้าวด้วยครับ ไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง
1. คนเป็นโรคไตเสื่อมต้องระวังการดื่มน้ำมะพร้าว เพราะน้ำมะพร้าวจะไปกระตุ้นการขับปัสสาวะ ถ้าร่างกายขาดน้ำ คนที่เป็นโรคไตอาจจะหัวใจวายได้
2. คนที่มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ ถ้าร่างกายได้รับโพแทสเซียมมากเกินไป อาจสร้างปัญหาให้หัวใจได้ ดังนั้นคนที่เป็นโรคนี้ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำมะพร้าว
3. ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ไม่ควรดื่มน้ำมะพร้าวปริมาณมากหรือบ่อยจนเกินไป เนื่องจากอาจส่งผลให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น และอาจกระตุ้นให้โรคกำเริบได้
4. หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร หากจะดื่มน้ำมะพร้าวหรือบริโภคผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เนื่องจากสุขภาพร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน
5. ผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดควรหยุดบริโภคน้ำมะพร้าวอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
6. คนที่มีอาการแพ้น้ำมะพร้าวควรหลีกเลี่ยงการดื่ม โดยสังเกตอาการแพ้หลังจากดื่มน้ำมะพร้าว เช่น คันตามตัว มีผื่นขึ้น หายใจลำบาก เป็นต้น
7. ควรเลือกดื่มน้ำมะพร้าวสด เพราะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าน้ำมะพร้าวสำเร็จรูป แต่หากต้องดื่มน้ำมะพร้าวสำเร็จรูป ควรเปรียบเทียบส่วนผสมของแต่ละยี่ห้อก่อนเลือกดื่ม โดยเฉพาะปริมาณน้ำตาล
ถึงแม้น้ำมะพร้าวจะมีส่วนช่วยลดความดันโลหิตสูงได้ แต่ก็ยังมีข้อควรระวังสำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและอยู่ในช่วงรับประทานยาควบคุมความดัน ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้หากจะดื่มน้ำมะพร้าวควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก :
– https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/363/
– https://www.disthai.com/17165941/มะพร้าว
– https://www.postsod.com/drink-healthy-coconut-water-avoid
– https://www.pobpad.com/มะพร้าว-ผลไม้สารพัดประโ– https://medthai.com/มะพร้าว/