สุขภาพร่างกายและความแข็งแรงของเรามักจะสวนทางกับตัวเลขที่มากขึ้น หลายคนเข้าใจกันดีใช่ไหมครับว่ายิ่งเราอายุมากขึ้น การทำงานของระบบต่างๆก็จะยิ่งเสื่อมสภาพลง จากอดีตเคยแข็งแรงวิ่งเป็นกิโลก็ไม่เหนื่อย แต่ตอนนี้แค่เดินขึ้นบันไดไม่กี่ขั้นก็หอบแล้ว หรือแต่ก่อนความจำดีไม่มีขาดตกบกพร่อง แต่ตอนนี้พอตกเย็นก็ลืมแล้วว่าทานข้าวเช้ากับอะไร
เอลเดอร์เชื่อว่าผู้สูงอายุหลายๆ ท่านคงไม่ชอบที่ร่างกายเราอ่อนแอลงแบบนี้ บางคนก็เร่งหายาและอาหารเสริมมากมายมาทานเพื่อบำรุงสุขภาพ หรือบางคนก็ไม่ได้มีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพยังใช้ชีวิตปกติเฉกเช่นวัยรุ่น ดื่มหนัก กินหนัก ทานของทอดของมันเพราะว่าอร่อย แล้วก็คิดเพียงว่าถ้าวันหนึ่งร่างกายเจ็บป่วยก็เป็นเพราะอายุที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น
แต่เดี๋ยวก่อน…..ถ้าคุณอ่านบทความนี้ แล้วหยุดคิดซักนิดชีวิตจะสดใสในวัยสูงอายุแน่นอนครับ ปัญหาสุขภาพ โรคภัยต่างๆ ส่วนหนึ่งก็มาจากพันธุกรรม แต่ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้ชีวิตของเราเป็นหลักเลยครับ เพียงแต่เราไม่ได้ตระหนักถึงจุดนี้ อย่างเช่นในเรื่องของการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ บางคนยังใช้คำว่า “กินเพื่ออยู่ ไม่ได้อยู่เพื่อกิน” เพื่อเป็นข้ออ้างว่าเรากินเพื่อให้มีแรงในแต่ละวันเท่านั้น กินอะไรก็ได้ โดยไม่ได้สนใจว่าอาหารเหล่านั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายหรือไม่ หรือบางคนก็ดื่มแอลกอฮอล์หนัก สูบบุหรี่หนักจนถึงวัยสูงอายุ คนในครอบครัวห้ามก็ไม่ฟัง แน่นอนครับว่าทุกสิ่งที่ท่านยังทำอยู่มันจะแสดงผลในอีกไม่ช้าแน่นอน
ร่างกายก็เหมือนเครื่องจักรครับ ซื้อมาใช้งานแรกก็ทำงานได้ดี แต่ถ้าทำงานหักโหม ไม่มีการตรวจเช็คสภาพมันก็ย่อมเสื่อมสภาพเป็นธรรมดา แต่ดีนะครับที่เครื่องจักรถ้าพังยังมีอะไหล่เปลี่ยน แล้วถ้าเป็นอวัยวะภายในของเราล่ะครับ เปลี่ยนได้ไหมถ้าคุณใช้งานหนักเกินไป บางอย่างอาจจะเปลี่ยนได้แต่ราคาก็แสนจะแพง และยังต้องเสี่ยงช่วยอวัยวะขาดแคลนอีก
ดังนั้น…ถ้าไม่อยากต้องเสียสุขภาพ เสียค่าเปลี่ยนอะไหล่แล้ว เรามาดูกันดีกว่าครับว่าตัวการที่ทำให้อวัยวะของเราเสื่อมสภาพลงคืออะไรบ้าง มาดูกับว่า #อวัยวะกลัวอะไร รู้ตั้งแต่เนิ่นๆจะได้เลี่ยงการทำร้ายอวัยวะของเรา เพื่อสุขภาพที่ดีในวัยสูงอายุครับ
1.หัวใจ กลัว เค็ม
- เพราะการกินเค็มมากๆ จะทำให้เกิดอาการคลั่งของโซเดียมในเลือด อาจทำให้เกิดหัวใจวาย และทำให้มีความดันโลหิตสูงขึ้น หรือในคนปกติก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้ครับ
2. สมอง กลัว การอดอาหารเช้า
- เพราะอาหารเช้าเป็นมื้อสำคัญที่ต้องได้สารอาหารและพลังงานที่เพียงพอ เพื่อส่งเสริมการทำงานของสมองและช่วยให้ความจำดีขึ้น
3. ดวงตา กลัว แสงจากโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์
- แสงสีฟ้าจากหน้าจอมือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ สามารถทำลายได้ลึกถึงจองประสาทตา ระยะแรกหากตาได้รับแสงสีฟ้ามากๆ จะทำให้เกิดอาการปวดตา ตาแดง ตาแห้ง และร้ายแรงไปถึงทำให้เกิดจอปะสาทตาเสื่อม มองเห็นไม่ชัดเจนใช้ชีวิตลำบากแน่นอนครับ
4. ตับ กลัว ของมัน
- การรับประทานอาหารทอด อาหารมันบ่อยๆจะกระตุ้นให้ร่างกายสะสมไขมันในเลือดสูงซึ่งจะส่งผลเสียต่อตับ ยิ่งถ้าเป็นโรคอ้วนหรือดื่มแอลกอฮอล์บ่อยๆจะทำให้เกิดไขมันไปแทรกในเซลล์ตับ นำไปสู่โรค “ไขมันพอกตับ”
5. ตับอ่อน กลัว ดื่มแอลกอฮอล์หนัก
- การดื่มแอลกอฮอล์หนักมากเกินไป นอกจากส่งผลเสียต่อตับแล้วยังส่งผลเสียต่อตับอ่อนด้วย เพราะแอลกอฮอล์จะไปทำลายเซลล์ตับอ่อนทำให้เกิดการอักเสบเฉียบพลัน และถ้าหากเป็นภาวะตับอ่อนอักเสบเรื้อรังอาจจะทำให้มีโอกาสเป็นโรคเบาหวานได้ครับ
6. ปอด กลัว ฝุ่นละออง ควันบุหรี่ เชื้อโรค
- ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น ควัน เชื้อโรค สารเคมี ตัวการเหล่านี้จะส่งผลเสียต่อถุงลมปอด เพราะถุงลมปอดเป็นที่แลกเปลี่ยนแก๊ส หากมีสารตกค้างในถุงลมเกิดการอักเสบเป็นหนองในถุงลมปอดก็จะนำไปสู่โรคปอดติดเชื้อได้เลยครับ
7. ลำไส้ กลัว กินมั่ว กินมาก
- กินมั่วนั้นหมายถึงการกินอาหารที่ไม่สะอาด มีการปนเปื้อนของสารเคมีและเชื้อโรค ซึ่งจะทำให้เกิดอาหารท้องเสียได้ ส่วนกินมากก็คือกินอาหารในแต่ละมื้อมากเกินไป มักจะทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ บางคนเป็นรุนแรงถึงกรดไหลย้อน หากกินเยอะแล้วรีบนอน
8. กระเพาะอาหาร กลัว เย็นจัด ร้อนจัด
- หลายคนคิดว่าทานน้ำเย็นไม่ดี ถ้าเป็นอุณหภูมิที่ไม่เย็นมากยังทานได้ไม่มีผลต่อกระเพาะครับ แต่ไม่แนะนำเครื่องดื่มที่มีอุณหภูมิที่เย็นจัดหรือร้อนจัด และอาหารรสจัดก็ไม่ควรรับประทาน เพราะอาจทำให้เกิดกระเพาะอักเสบได้ครับ
9. ไต กลัว ยา และอาหารเสริม
- เมื่อเราป่วยหรือสุขภาพไม่ดี เราก็จะทานยาและอาหารเสริมเพื่อให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมใช่ไหมครับ แต่รู้ไหมครับว่าถ้าเราทานยาหรืออาหารเสริมมากเกินความจำเป็นจะส่งผลเสียต่อไตได้ เพราะไตจะทำหน้าที่ขับยาส่วนเกินที่ร่างกายไม่ต้องการออกไปทำให้ไตทำงานหนักครับ ดังนั้นอย่าทานยาหรืออาหารเสริมพร่ำเพรื่อ ควรทานตามแพทย์แนะนำครับ
ขอขอบคุณความรู้ดีๆจาก