อาการท้องผูกขับถ่ายลำบากเป็นอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพที่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักประสบกัน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความรู้สึกไม่อยากอาหาร รับประทานได้น้อยลง จนอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมา วันนี้เอลเดอร์เลยจะขอชวนทุกท่านมาทำความเข้าใจอาการท้องผูกในผู้สูงอายุ พร้อมกับแนะนำเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยลดการท้องผูกให้ผู้สูงอายุขับถ่ายได้คล่องขึ้นกันครับ
สาเหตุของท้องผูกในผู้สูงอายุ
สาเหตุหลักของการท้องผูกในผู้สูงอายุก็คือความเสื่อมตามวัย เพราะเมื่ออายุมากขึ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารและการบีบตัวของลำไส้ก็จะน้อยลง กากอาหารและของเสียจึงคั่งข้างในลำไส้จนกลายเป็นอุจาระแข็งซึ่งทำให้ขับถ่ายออกมาได้ยากนั่นเองครับ

ไม่เพียงเท่านั้นพฤติกรรมการกินก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุท้องผูก โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาช่องปากและฟันทำให้เลือกกินไม่อยากรับประทานกากใยอาหารที่ต้องใช้แรงบดเคี้ยวทำให้กากใยอาหารไม่พออุจาระก็จะแข็งและเหนียวถ่ายอยากนั่นเอง อีกสาเหตุหนึ่งก็คือดื่มน้ำน้อยเกินไปเพราะกังวลว่าจะปัสสาวะบ่อย แต่รู้ไหมครับว่าการดื่มน้ำน้อยนี้ทำให้ยิ่งขับถ่ายอยากเข้าไปอีก เพราะลำไส้ไม่มีน้ำไปหล่อลื่นขับถ่ายกากอาหารหรืออุจจาระออกมา นอกจากนั้นยาบางชนิดก็อาจเป็นสาเหตุให้ผู้สูงอายุท้องผูกได้ เช่น ยาแก้ปวด ยาฆ่าเชื้อแก้อักเสบ ยาลดกรด ยาลดความดันโลหิต เป็นต้น
อาการแบบไหนที่เรียกว่าท้องผูก
อาการที่เรียกว่าท้องผูกนั้นอย่างแรกเลยคือขับถ่ายอุจาระลำบาก ต้องใช้แรงเบ่งเป็นเวลานาน แถมอุจจาระมีลักษณะแข็ง ถ่ายเสร็จแล้วยังรู้สึกอึดอัดเหมือนถ่ายออกมาไม่หมด และยังขับถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 วันในหนึ่งสัปดาห์ ถ้าคุณมีอาการเหล่านี้ถือว่าคุณกำลังมีปัญหาท้องผูกอยู่ ซึ่งบางรายอาจมีหน้าท้องใหญ่ร่วมด้วย หรือไม่ก็อาจจะมีอาการหน้ามืดวิงเวียนศีรษะง่าย ลมหายใจมีกลิ่น เป็นต้น ถ้าหากปล่อยไว้นานเข้าอาจเสี่ยงให้เกิดโรคริดสีดวงตามมา นอกจากนั้นยังทำให้ความดันในช่องท้องทรวงอกเพิ่มขึ้นผู้ป่วยโรคหัวใจอาจทำให้หัวใจขาดเลือดหรือเต้นผิดจังหวะได้ หรือท้องผูกหนัก ๆ เข้าร่วมกับน้ำหนักลด ถ่ายเป็นมูกเลือด ก็อาจเสี่ยงที่จะกลายเป็นมะเร็งลำไส้ได้เลยนะครับ นี่ยังไม่รวมไปถึงภาวะความเครียดที่ตามมาจากการท้องผูก ซึ่งอาจรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของเรา ดังนั้นอาการท้องผูกในผู้สูงอายุเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมากครับ

เคล็ดลับวิธีแก้ท้องผูกในผู้สูงอายุ
1. รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง

การรับประทานอาหารที่มีกากใยสูงจะช่วยให้การทำงานของระบบย่อยอาหารและลำไส้เป็นปกติขึ้น โดยผู้สูงอายุควรได้รับใยอาหาวันละ 20 – 35 กรัม ผู้ที่มีปัญหาท้องผูกควรได้รับอาหารที่มีใยอาหารเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 25 – 60 กรัม จะทำให้อุจจาระนิ่มขึ้นและสามารถขับถ่ายออกมาได้อย่างง่ายดาย โดยอาหารที่มีกากใยสูงจะเป็นพวกผักผลไม้ต่าง ๆ รวมไปถึงข้าวที่ไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรเบอร์รี่ หากรับประทานอย่างเพียงพอจะช่วยลดการท้องผูกขับถ่ายคล่องขึ้นแน่นอนครับ ถ้าหากผู้สูงอายุท่านไหนมีปัญหาการบดเคี้ยวแนะนำให้พบทันตแพทย์รักษาให้ดีก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฟันปลอม ปัญหาเหงือกอักเสบ และควรปรุงอาหารให้มีขนาดเล็กลง สุกนิ่ม ก็จะทำให้รับประทานได้ง่ายขึ้นแล้วครับ
2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

นี่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเลยก็ว่าได้ครับ อันเนื่องจากว่าผู้สูงอายุจะดื่มน้ำน้อยกันมาก ๆ เพราะกลัวจะปัสสาวะบ่อย กลั้นลำบาก ไม่อยากลุกเดินเข้าห้องน้ำกันวันละหลาย ๆ ครั้ง ทำให้ดื่มน้ำน้อยกัน แต่ยังไงเราก็ควรจะดื่มน้ำให้เพียงพอนะครับ อย่างน้อยก็วันละ 8 – 10 แก้ว เพื่อให้ขับถ่ายง่ายขึ้นไม่ท้องผูก ที่สำคัญยังช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื้นขึ้นด้วยครับ
3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

กิจวัตรประจำวันของผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่นิ่ง ๆ กันมากกว่าจะขยับเขยื้อนทำอะไร ซึ่งการเคลื่อนไหวน้อยนี่เองครับที่ส่งผลให้ท้องผูก เพราะพอเราอายุเยอะขึ้นลำไส้เคลื่อนไหวและบีบตัวน้อยลงยิ่งอยู่นิ่ง ๆ ไม่ได้ขยับตัวไปไหนก็จะยิ่งทำให้ลำไส้ทำงานน้อยลงไปด้วย ดังนั้น ผู้สูงอายุควรหากิจกรรมทำและควรออกกำลังกายเบา ๆ ให้ร่างกายและลำไส้ได้เคลื่อนไหวก็จะช่วยให้ขับถ่ายง่ายขึ้น แถมยังช่วยบริหารกล้ามเนื้อและกระดูกให้แข็งแรงตามมาอีกด้วย
4. รักษาด้วยยา

หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทั้งออกกำลังกาย กินอาหารที่มีกากใย และดื่มน้ำอย่างเพียงพอแล้วอาการท้องผูกยังไม่ดีขึ้นอาจจะต้องปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณารักษาด้วยยา ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นยาระบาย ยาสวนทวาร ยาที่ออกฤทธิ์ทำให้อุจจาระนิ่ม ยากระตุ้นการทำงานของลำไส้ ฯลฯ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้สั่งจ่าย ไม่ควรไปซื้อหายาระบายมารับประทานเองโดยเด็ดขาดเพราะอาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมาได้
ทั้งหมดนี้ก็เป็นสาระดี ๆ เกี่ยวกับอาการท้องผูกและเคล็ดวิธีแก้ท้องผูกที่เอลเดอร์รวบรวมมาฝากครับ หวังว่าจะพอเป็นประโยชน์ให้กับทุกท่านได้เอาไปใช้เป็นแนวทางในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดูแลตนเองและคนในครอบครัว เพื่อให้ผู้สูงวัยใช้ชีวิตได้อย่างแฮปปี้ไม่ต้องคอยกังวลกับปัญหาท้องผูก พร้อมกับมีสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่ดีขึ้นตามมาด้วยครับ
ที่มา